ที่สุดของมือถือ ที่สุดของสมาร์ทโฟน “ iPhone ”
ในยุคปัจจุบันสมาร์ทโฟน ถือเป็นโทรศัพท์มือถือ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยผู้ที่บุกเบิกวงการสมาร์ทโฟน เป็นเจ้าแรกนั่นก็คือ Apple ซึ่งได้ปล่อย iPhone ออกมาเป็นหัวหอกในการบุกตลาด จนกลายเป็นแบรนด์ติดตลาดระดับโลก และ สร้างฐานเหล่าผู้ใช้งานขึ้นมาอย่างเหนียวแน่น ซึ่งทั้งนี้นอกจาก ไอโฟน จะมีฟีเจอร์ที่ครบครันมากกว่าโทรศัพท์มือถือทั่ว ๆ ไปแล้ว iPhone ยังเสริมความสามารถของตัวฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้สูงขึ้นมากกว่าเดิม และ เป็นรูปแบบเฉพาะที่มีใน iPhone เท่านั้น ถึงจะสามารถใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็นการท่องอินเทอร์เน็ตผ่านซอฟต์แวร์ซาฟารี , ส่งอีเมล์ , ใช้เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ , ส่งเอสเอ็มเอส , ค้นหาแผนที่ , ฟังเพลง , เล่นเกมส์ จนรวมไปถึงความสามารถอื่น ๆ ที่มีการอัพเดทเพิ่มเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ตัว ไอโฟน จะประกอบไปด้วยอุปกรณ์หลาย ๆ อย่าง ซึ่งอุปกรณ์หลัก ๆ ก็จะมีตั้งแต่ Wi-Fi (802.11b/g) , บลูทูธ 2.0 , และ กล้องถ่ายภาพ ซึ่งในรุ่นแรก จะมีลักษณะเป็น 2.5G quad band GSM และ EDGE ก่อนที่รุ่นสองจะเปลี่ยนมาใช้เป็น UMTS และ HSDPA ในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ถ้าพูดถึงแบรนด์ iPhone เราคงจะไม่พูดถึงบุรุษอัจฉริยะแห่งโลกไอทีอย่าง สตีฟ จอบส์ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะการที่ ไอโฟน สามารถเดินทางมาไกล ได้ถึงขนาดนี้ นั้นเกิดจากตัว สตีฟ เป็นหลัก ก็คงไม่ได้พูดเกินเลยไป ซึ่ง สตีฟ คือคนแรกที่ได้นำ ไอโฟน รุ่นที่หนึ่ง ไปเปิดตัวในงานแม็คเวิลด์ ที่จัดขึ้นใน วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2550 พร้อมกับวางจำหน่ายใน วันที่ 29 มิถุนายน ในปีเดียวกันนั้นเลย นอกจากนี้ ในปีนั้น ไอโฟน ยังได้รับรางวัลว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์สุดยอดเยี่ยมประจำปี จากนิตยสารไทม์ อีกด้วย และ หลังจากที่ ไอโฟน รุ่นที่หนึ่ง และ สอง ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี Apple ก็ไม่ยอมให้ ไอโฟน หยุดอยู่แค่ตรงนั้น พร้อมกับเร่งพัฒนา iPhone ให้มีรุ่นใหม่ออกมาอีกมากมาย โดยไม่ว่าจะเป็น รุ่น 3G , 3GS , 4 , 4S , 5 , 5C , 5S , 6 , 6 Plus , 6S , 6S Plus และ ล่าสุดกับ SE ซึ่งเปิดตัวไปวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้ารุ่น SE นี้ จะมีความพิเศษอยู่ตรงรูปลักษณ์ของตัวเครื่อง ที่ได้นำเอกลักษ์ของรุ่น 5S มาใช้ เพื่อตอบโจทย์คนที่ไม่ชอบหน้าจอใหญ่ ๆ ของรุ่น 6 , 6S , 6 Plus และ 6S Plus โดยนอกจากนี้ SE ยังมีสเปคเครื่องที่เหนือกว่ารุ่น 5S จนเกือบเทียบเท่าระดับ 6S อีกด้วย
สิ่งที่ทำให้ iPhone เป็นโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ที่โดดเด่นกว่าโทรศัพท์แบรนด์อื่น ๆ นั่น ก็คือ ระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และ สมบูรณ์พร้อมด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ โดย ไอโฟน นั้นมีความแตกต่างจากโทรศัพท์รุ่นอื่น ๆ ตั้งแต่รูปลักษณ์ของตัวเครื่อง ซึ่งไร้ปุ่มใด ๆ ติดอยู่เลย เพราะ ไอโฟน จะใช้การทำงานผ่านหน้าจอ ในรูปแบบสัมผัส มัลติทัชผ่านคำสั่งต่าง ๆ และ ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS เป็นหลัก นอกจากนั้น ยังมีระบบเซ็นเซอร์ในการรับรู้สภาพของเครื่อง เพื่อกำหนดการแสดงผลของจอภาพได้อีกด้วย เช่นการปรับให้ตัวเครื่องสามารถแสดงผลแบบแนวตั้ง และ แนวนอนได้ ตามลักษณะการวางของตัวเครื่อง ของผู้ใช้งาน โดยสิ่งที่โดดเด่นยิ่งกว่าโทรศัพท์รุ่นไหน ๆ นั่นก็คือ ความละเอียดของตัวกล้อง ซึ่งยิ่งมี ไอโฟน รุ่นใหม่ ๆ ออกมามากเท่าไหร่ ความละเอียดของภาพที่ถ่ายจากตัวกล้องของ ไอโฟน ก็ยิ่งละเอียดมากขึ้นเท่านั้น โดยนอกจากความละเอียดของตัวกล้องที่เพิ่มเข้ามาแล้ว ลูกเล่นด้านการถ่ายภาพต่าง ๆ ก็ถูกเพิ่มเข้ามาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพแบบพาโนรามา , Slo-Mo , Time-Lapse โดยอาศัยการทางานร่วมกันของทั้ง Hardware และ Software เป็นหลัก ทั้งนี้ตัว iPhone ยังสามารถรับเครื่อข่ายสัญญาณที่สำคัญในระดับโลกอย่าง Dtac , True move , AIS , และ AT&T ได้อีกด้วย
สาหรับการวางจำหน่ายของ iPhone ได้เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550 เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา เท่านั้น ซึ่งเป็นครั้งที่มีการร่วมมือกับเครือข่ายเอทีแอนด์ทีไวร์เลสส์ ซึ่งก่อนวันวางจำหน่ายร้าน Apple ได้ทำการปิดร้านเร็วกว่าปกติ เพื่อเตรียมขาย ไอโฟน ในช่วง 18 นาฬิกา และ ได้มีลูกค้ามาต่อคิว เข้าซื้อกันเป็นจำนวนมาก โดย Apple สามารถขาย ไอโฟน ได้ถึง 270,000 เครื่อง ในช่วง 30 ชั่วโมง แรกเท่านั้น ซึ่งปัจจุบัน ไอโฟน รุ่นแรก มีการวางจำหน่ายใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไอร์แลนด์ , สหราชอาณาจักร , ฝรั่งเศส , เยอรมนี , ออสเตรีย และ สหรัฐอเมริกา จากนั้นมาอีก 1 ปี ในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 iPhone 3G ก็ได้ทำการวางจำหน่ายใน 22 ประเทศ ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึง 6 ประเทศ ที่เคยวางจาหน่ายไปแล้ว จากนั้นทาง Apple ก็ได้วางจำหน่ายเพิ่มเติมอีก 48 ประเทศ ทั่วโลก รวมแล้วทั้งสิ้น 70 ประเทศ ซึ่งในอาเซียนจะมี สิงคโปร์ และ ฟิลิปปินส์ เท่านั้นที่วางจาหน่าย iPhone อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ผู้ที่ซื้อ ไอโฟน จากสหรัฐอเมริกา ยังต้องทำสัญญากับเอทีแอนด์ทีเป็นระยะเวลาถึง 2 ปี
ทั้งนี้ในส่วนของประเทศไทยเรานั้น ได้วางจำหน่าย iPhone 3G ในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2552 ผ่านทาง True move ซึ่งเป็นผู้ถือถือสิทธิ์ เป็นรายแรกของประเทศไทย พร้อมกับจัดงานเปิดตัว อีก 3 วัน ได้แก่ วันที่ 16-18 มกราคม พ.ศ. 2552 ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ สยามพารากอน จากนั้น Dtac จึงเป็นรายที่สอง ที่ได้ถือสิทธิ์สำหรับการขาย iPhone เป็นเจ้าต่อมา และ เปิดตัวพร้อมจำหน่ายในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2553 ณ ลานพาร์กพารากอน สยามพารากอน จากนั้น AIS จึงเป็นรายที่ 3 ที่ได้จัดจำหน่าย iPhone ในประเทศไทย