ถ้าหากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับ Steam Controller ไม่ว่าเรื่องเล็ก หรือ เรื่องใหญ่ วิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้นนี้ ช่วยให้คุณผ่านมันไปได้ โดยที่ไม่ต้องไปโพสต์ถามที่ไหน แล้วนั่งคอยคำตอบ คุณสามารดูได้จากคู่มือนี้ และ ลองทำตามด้วยตนเองได้
บทนำ
Steam Community มีเอาไว้ให้พูดคุย สอบถามปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับ Steam และ Steam Controller คุณสามารถเข้าไปพูดคุย สอบถามผู้คน เกี่ยวกับปัญหาที่พบเจอได้ บางทีคุณมีปัญหาเกี่ยวกับ Steam Controller กับเกมส์ที่ไม่มีใครรู้วิธีแก้ หรือ ไม่อยากรอให้เสียเวลา วิธีแก้ปัญหานี้ จะช่วยให้คุณผ่านพ้นปัญหาเหล่านั้นไปได้ บางครั้งปัญหาแค่เล็กน้อย เกี่ยวกับคอนโทรลเลอร์ สำหรับคนที่มีประสบการณ์มากพอ เขาก็สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว พยายามใจเย็นเข้าไว้ เมื่อเจอปัญหาต่าง ๆ เพราะไม่มีใครมาแก้ปัญหา หรือ บอกคุณได้ทุกครั้ง ให้ใจเย็น ๆ ลองหาทางแก้ไข โดยดูจากคู่มือนี้ หรือ อาจจะค่อย ๆ หาทางแก้ไขจากทางใดทางหนึ่งก่อน
การเปลี่ยนแบตเตอรี่
ผมไม่สามารถบอกได้ว่ากี่ครั้งแล้ว ที่มีคนโพสต์ถามปัญหาของ Steam Controller แล้วพูดซะยืดยาวว่าควรจะใช้แบตเตอรี่แบบไหนดี ถ้าคุณเพิ่งจะแกะ Steam Controller ออกจากกล่องเป็นครั้งแรก เพื่อที่จะใส่แบตเตอรี่แล้วล่ะก็ แนะนำว่าอย่าใช้แบตเตอรี่ Duracell ที่แถมมากับตัวคอนโทรลเลอร์ น่ะ ใช้ได้ แต่คุณภาพมันไม่ดี เท่ากับเราใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จได้ Ni-MH ( นิเกิล-เมททรัลไฮดราย ) และ ควรใช้ชุดชาร์จที่ดีด้วย หรือ ถ้าคุณมีแบตเตอรี่ แบบ Alkaline ก็แนะนำให้เอามาใช้ แต่ผมไม่ได้หมายความว่าแบบ Ni-MH ไม่ดีนะ สุดท้ายนี้ ถ้าคุณมีปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับการเชื่อมต่อ หรือ การตอบสนองของปุ่มกดที่ช้า ให้คิดเอาไว้ก่อนเลยว่า อาจเป็นเพราะแบตเตอรี่ที่ไม่มีคุณภาพ
ทดลองทั้ง 2 แบบ Wireless และ ใช้สาย USB
ไม่ใช่เรื่องยาก หลังจากซื้อ Steam Controller มาแล้ว คุณจะทดสอบการเชื่อมต่อทั้ง 2 แบบ ทั้งแบบ Wireless และ แบบใช้สาย USB เพราะบางทีอาจจะมี Bug ( บัค ) สำหรับลูกค้าที่ใช้งานแบบ Beta ทดลองให้ครบ เผื่อว่ามีปัญหาตรงจุดไหน จะได้แก้ไขได้ ก่อนเอาไปเคลมที่ร้าน ที่ซื้อมา เพราะบางคนไม่เคยใช้สาย USB ที่แถมมาเลย พอจะใช้อีกที อ้าว ใช้ไม่ได้แล้ว เป็น สิทธิ์ของลูกค้า ทดสอบให้ดี และ แน่ใจก่อนใช้งาน ถ้า Steam Controller ของคุณใช้งานได้ดีด้วยสาย USB แต่มีปัญหาด้านการเชื่อมต่อแบบ Wireless ให้คุณลองดูที่หัวข้อ EMI ในคู่มือประกอบ เพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
ลองสลับใช้โปรแกรมแบบ Beta หรือ ใช้รุ่นปรกติ
Valve บอกว่าการใช้โปรแกรมรุ่น Beta หรือ รุ่นทดลอง สำหรับ Steam Controller นั้น ซึ่งก็หมายความว่า การทำงานขั้นพื้นฐาน และ การแก้ไขจุดบกพร่องต่าง ๆ จะถูกส่งให้ลูกค้า Beta ได้ทดลองใช้งานก่อน ลูกค้าแบบปกติ บางทีมันอาจจะมี Bug ( บัค ) ที่ลูกค้าแบบปกติไม่มี ถ้าคุณเจอปัญหาแปลก ๆ เกี่ยวกับ Steam Controller ให้ลองสลับการใช้งานดู ถ้าคุณใช้รุ่น Beta ให้ลองเปลี่ยนกลับมาเป็นรุ่นปรกติ ถ้าคุณใช้แบบปกติ แล้วเจอ Bug ( บัค ) ให้ลองหาโปรแกรมรุ่น Beta มาทดลองใช้งาน บางครั้งปัญหาแปลก ๆ ของ Steam Controller อาจเกิดจากจุดนี้ก็ได้
ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Steam Controller เชื่อมต่ออยู่ ไม่ได้หลุด
เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการเพิ่มการเชื่อมต่อ ตัวอุปกรณ์นั้นยังไม่ได้มีการลงทะเบียน หรือ คุณใช้คุณสมบัติ Sleep บน PC หรือ แล็ปท็อป คุณจะต้องทำการตรวจสอบบางอย่าง ขั้นตอนแรก ให้คุณเปิดโหมด Big Picture แล้วเข้าไปที่เมนู Option จากนั้นให้เลือก ตัวเลือก Add/Test
ปกติคุณจะเห็น Steam Controller ตัวที่หนึ่ง ที่มีการยืนยันตัวตน ว่าไม่ใช่คอนโทรลเลอร์ที่ไม่ได้ทำการเชื่อมต่อ บ่อยครั้งที่มันจะแสดงขึ้นมา เมื่อคอนโทรลเลอร์ของคุณนั้นเหลือแบตเตอรี่อยู่แค่ขีดเดียว เหลือน้อย ซึ่งมันไม่น่าจะใช่สาเหตุที่จะทำให้เกิดอาการนี้ขึ้นมาได้
อีกกรณีหนึ่งมักจะเกิดขึ้นในเวลาที่คอมพิวเตอร์ของเราเข้าสู่โหมด Sleep โดยที่ Steam Controller ของเรายังคงเปิดอยู่ มีแนวโน้มที่จะมีการตัดการเชื่อมต่อกับคอนโทรลเลอร์ และ เชื่อมต่อใหม่ อีกครั้ง เมื่อคอมพิวเตอร์ทำการ Resume มันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกครั้ง เมื่อคอมพิวเตอร์เข้าสู่โหมด Sleep วิธีการแก้ไขปัญหา คือ คุณต้อง Reboot คอมพิวเตอร์ และ เพื่อความสะดวกสบาย Valve ได้อนุญาตให้คุณสามารถทำได้ผ่านโหมด Big Picture โดยการกดปุ่ม Steam ค้างไว้สักครู่ แล้วเมนูก็จะโชว์ขึ้นมา
สลับ Steam Controller Wireless Receiver ( ตัวรับสัญญาณ ) ไปช่อง USB อื่น
เปลี่ยนช่องเสียบ USB ของตัว Steam Controller Wireless Receiver ทำได้ง่าย เพียงแค่คุณถอดมันออก ไปเสียบช่องอื่นแค่นั้น Windows จะหยุดการทำงาน และ ทำการเชื่อมต่อกับ Steam Controller ให้ใหม่ อีกครั้ง และ ทำการลงไดรเวอร์ให้ใหม่ ในกรณีที่ไฟเลี้ยงพอร์ต USB ด้านหน้าของคุณไม่เพียงพอ คุณก็สามารถย้ายไปใช้งานพอร์ต USB ทางด้านหลังได้ แต่บางทีคุณอาจจะมีปัญหากับบางพอร์ต ถ้าเมนบอร์ดไม่รองรับการใช้งาน หรือว่า ใช้งานคอนโทรลเลอร์ตัวอื่น ๆ อยู่ในขณะนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณใช้ตัวรับสัญญาณแบบ Wireless แล้วล่ะก็ ควรจะหลีกเลี่ยงพอร์ต USB 3.0 เพราะว่ามันมีอัตราการรั่วไหลของ EMI * ( Electromagnetic Interference ) มากกว่าพอร์ต USB 2.0 ซึ่งปกติแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร ถ้ามีปัญหาอะไร ให้ลองด้วยตัวเองก่อน ที่จะขอความช่วยเหลือ
* EMI ( Electromagnetic Interference ) คือ สัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า พบได้ในอุปกรณ์ไร้สาย
Calibration การปรับแต่ง Steam Controller
คุณลักษณะที่ผู้ใช้งานทั่วไป ไม่ค่อยได้ใช้งานมากนัก คือ เมนู Calibration ( การปรับแต่ง ) ถ้าผู้ใช้งานได้ Steam Controller มาเป็นครั้งแรก อาจจะมีการใช้เมนูนี้ และ ไม่เคยแตะมันอีกเลย ตัวเลือกนี้จะช่วยคุณปรับค่า ตำแหน่งศูนย์ ทั้ง แกนอนาล็อก , Trigger , Gyros และ Trackpads ทั้ง 2 ด้าน ซึ่งทุกอย่างสามารถทำผ่านการปรับจูนได้ทั้งหมด ยกเว้นข้อจำกัดบางข้อ ที่ไม่สามารถปรับจูนได้ ดังต่อไปนี้
- Gyro อัตโนมัติสำหรับการ drift
- Jittery หรือ jumpy gyros
- Trackpads ทั้งสองด้าน ที่ไวต่อการทำงาน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้วางนิ้วลงไป แค่เอานิ้วไปใกล้มัน
- Jittery หรือ jumpy ของ Trackpads ที่ไม่สอดคล้องกัน
- Analog drift ไปในทิศทางใด ทิศทางหนึ่งช้า ๆ โดยที่ยังไม่ได้สัมผัสกับมัน
- Trigger ไม่กลับคืนศูนย์ ในขณะที่คุณยังไม่ได้กดมัน
การปรับแต่ง Steam Controller ควรจะทำอย่างสม่ำเสมอ เช่น แกนอนาล็อก จะมีสปริงอยู่ด้านใน วันที่เราใช้งานไปเรื่อย ๆ สปริงจะเริ่มเสื่อมอายุการใช้งาน อาจจะทำให้ใช้งานได้ไม่เหมือนเดิม เราจึงต้องมีการปรับจูน หรือ ปรับ Steam Controller บ้าง ถึงแม้ว่าแกนอนล็อกของ Steam Controller นั้นจะดูแข็งแรง แต่มันก็ต้องมีวันเสื่อมไปตามกาลเวลา
ส่วนการปรับจูนนั้น คุณต้องเข้าไปที่เมนู Add / Test ทางด้านล่าง ของการตั้งค่า จากนั้นเลือกคอนโทรลเลอร์ของคุณ และ คุณจะเห็นปุ่มทางด้านขวามือของหน้าจอ นั่นแหละ คือ ปุ่มสำหรับ ปรับจูน หลังจากนั้นให้คุณวาง Steam Controller ลงบนพื้นที่ราบเรียบ แล้วอย่าขยับ เพราะมันเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการ Calibrate ค่าของ Gyros
ตรวจสอบไดรเวอร์เพื่อการทำงานที่ถูกต้อง
บน Windows นั้น Steam Controller จะแสดงเป็น HID เหมือนกับอุปกรณ์ คีย์บอร์ด และ เม้าส์ ส่วนวิธีการตรวจสอบไดรเวอร์ ให้คุณเข้าไปที่ Device Manager และ ลองถอด Steam Controller Wireless Receiver ( ตัวรับสัญญาณ ) ออกจากช่องเสียบ USB จะเห็นว่ามีอุปกรณ์ตัวหนึ่ง ที่หายไป และ กลับมาอีกครั้ง เมื่อคุณเสียบตัวรับสัญญาณ นั่นแหละ คือ คอนโทรลเลอร์ของคุณ ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละระบบปฏิบัติการด้วย ชื่อของมันอาจจะแตกต่างกันออกไป แต่ก็มีรายงานจากกลุ่มผู้ใช้ว่า มีปัญหาในอุปกรณ์ของ Razer บางรุ่น เช่นกัน ถ้าเกิดปัญหานี้ขึ้น ให้ทำการแก้ไข ตามขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนการถอนการติดตั้งอุปกรณ์ Razer
- เปิด Device Manager โดยคลิ๊กขวาที่ Computer บน Desktop แล้วเลือก Properties จากนั้น คุณจะเห็นบรรทัดที่เขียนว่า Device Manager ( อาจแตกต่างกันไปในแต่ละระบบปฏิบัติการ )
- มองหา ” Razer Device “
- ตรวจเช็คให้แน่ใจ ด้วยการทดลองถอดตัว Steam Controller Wireless Receiver แล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่ สังเกตดูว่า ชื่อของมันนั้นหายไป และ กลับมา หรือ เปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แปลว่าถูกตัวแล้ว
- ให้คลิ๊กขวา จากนั้นให้เลือก ” Uninstall ” ถ้ามันถามซ้ำ ก็ให้ตอบตกลง
- เสียบตัวรับสัญญาณ กลับคืนเข้าไปอีก ครั้ง
- เปิดโหมด Big Picture ไปที่ Setting , Controller , Add Steam Controller จากนั้นให้กดปุ่ม X ค้างไว้ และ กดปุ่ม Steam เพื่อเปิดคอนโทรลเลอร์ จากตรงจุดนี้คุณสามารถตั้งค่า แบบปกติ สำหรับ Steam Controller ได้เลย
ถ้าทำตามขั้นตอนนี้แล้ว ยังไม่ได้ผล ก็ถึงเวลาที่คุณจะเข้าไปหาความช่วยเหลือในกลุ่มของ Razer แล้วล่ะ ลองพยายามอย่างสุดความสามารถ ตามที่ได้แนะนำก่อน อย่าลืมว่าเราไม่ได้นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณต้องใจเย็น และ ช่วยเหลือตัวเองก่อน
ทำการปิด โปรแกรม ที่ไม่จำเป็น
Steam Controller นั้นใช้ระบบ Steam Client เพื่อประมวลผล และ บางครั้งโปรแกรมของมันอาจจะเข้ากันไม่ได้กับโปรแกรมตัวอื่น ๆ เพราะว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ล้วนใช้ซอร์ฟแวร์เป็นตัวควบคุม อะไรก็ตามที่มากับ คีย์บอร์ด และ เม้าส์ ของคุณ หรือ คอนโทรลเลอร์ตัวอื่น ควรจะปิดให้หมดเพื่อประสิทธิภาพ และ แก้ไขปัญหา
การทำงานร่วมกันของซอฟต์แวร์ต่าง ๆ นั้นอาจจะทำให้ Steam Controller มีปัญหา และ ไม่มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องปิดโปรแกรมต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน ถ้าคุณต้องการใช้งาน Steam Controller ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
โปรแกรมตัวไหนบ้าง ที่ทำให้มีปัญหา ? ช่วยเพิ่มเติมเป็นรายการลงไว้ในคู่มือนี้ที ช่วย ๆ กัน
ความขัดแย้งของ Overlay
ส่วนนี้ยังอยู่ในระหว่างการเขียน !!
เริ่มต้นด้วยการตั้งค่าปุ่มกดใหม่
ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับการตั้งค่า คุณควรรีสตาร์ท เพื่อตั้งค่าใหม่ มันเป็นประโยชน์กับคุณอย่างมาก และ มันจะเป็นปัญหาใหญ่ เมื่อคุณใช้การตั้งค่าเก่า และ โหลดมันมาใช้หลังจากที่ไม่ได้ใช้มานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Steam รุ่นเบต้า มีการอัพเดท อาจจะทำให้การตั้งค่าปุ่มผิดพลาดได้ เนื่องจากพวกเค้าเปลี่ยนประเภทของไฟล์เป็น VDF ถึงแม้จะไม่มีการอัพเดทที่สำคัญ แต่ก็ยังพอที่จะแก้ไขความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของการตั้งค่าได้
ถอดฮาร์ดแวร์ที่ไม่จำเป็นออก
การตั้งค่า HOTAS ย่อมาจาก Hands On Throttle And Stick สามารถแทรกแซงการทำงานของ Steam Controller ได้ ผู้ใช้หลายคนได้รายงานการถอดคอนโทรลเลอร์แบบพวงมาลัย , จอยเครื่องบิน เพื่อทำให้ Steam Controller ทำงานอีกครั้ง หากคุณรำคาญกับการต้อง ถอดเข้า ถอดออก บ่อย ๆ แนะนำให้ซื้อตัว USB Hub เพื่อเอาไว้สลับการทำงานของพอร์ท USB , Razer Hydra และ Nostromo อุปกรณ์ต่อพ่วงพวกนี้ มีปัญหากับ Steam Controller เวลาที่เชื่อมต่อพวกมันพร้อมกัน
ส่วนมาตรการการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ในตอนนี้คือคุณควรจะถอดการติดตั้งอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมด ขณะที่กำลังใช้งาน Steam Controller ซึ่งการแก้ไขด้วยวิธีนี้ เป็นวิธีที่แก้ไขปัญหาได้ดีที่สุดในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ที่มีการใช้ซอฟต์แวร์ของตัวเอง เช่น คีย์บอร์ด และ เม้าส์ ระดับ High- End
ลงทะเบียน Steam Controller ใหม่อีกครั้ง ในบัญชีของคุณ
การอัพเดทที่ผมจำได้อย่างหนึ่ง คือ การถอนการลงทะเบียน Steam Controller ออกจากบัญชีผู้ใช้ของตัวเอง ซึ่งถ้าคุณมีปัญหากับการตั้งค่า เมื่อคุณใช้งานคอนโทรลเลอร์ และ คุณได้ทำการย้ายไปที่ PC เครื่องอื่น หรือ เวลาที่คุณพยายามจะถอนคอนโทรลเลอร์ออกจากบัญชีของตนเอง ซึ่งการตั้งค่านั้น จะไม่บันทึกอยู่ในคอนโทรลเลอร์ของคุณ และ คุณจะไม่สูญเสียการตั้งค่าเมื่อคุณทำแบบนี้
ในเมนู add / test ให้เลื่อนไปที่ชื่อของคุณแล้วกด X เพื่อยกเลิกการลงทะเบียนคอนโทรลเลอร์บนบัญชีของคุณ
จากนั้น สิ่งที่คุณต้องทำคือ กลับไปใส่ชื่อของ Steam Controller ใหม่อีกครั้ง เหมือนครั้งแรกที่คุณลงทะเบียน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอินเตอร์เน็ตมีการเชื่อมต่ออย่างเสถียร
เมื่ออินเตอร์เน็ตของคุณไม่ทำงาน หรือ ไม่ได้ทำการเชื่อมต่อ ซอฟต์แวร์จะให้คุณล็อคอิน ในฐานะ Guest จนกว่าคุณจะกลับมาออนไลน์ อีกครั้ง ส่วนการตั้งค่ารูปแบบปุ่มกดของ Steam Controller นั้น ก็จะใช้งานไม่ได้ ถ้าจะ อัพโหลด หรือ เซฟแบบออฟไลน์ สำหรับการเซฟแบบออฟไลน์ คุณสามารถใช้คำสั่ง ส่งออก รอไว้ก่อนได้ แต่มันจะไม่ถูกส่งออก และ มันจะถูกส่งออก ก็ต่อเมื่อมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอีกครั้ง คุณสามารถเก็บการตั้งค่าของ Steam Controller เอาไว้ในเครื่อง PC ได้ ทั้ง ๆ ที่กำลังออฟไลน์อยู่ แต่ก็ยังโชคดี ที่คอนโทรลเลอร์สามารถใช้งานได้ ถึงแม้จะอยู่ในโหมดออฟไลน์ ตัวคอนโทรลเลอร์ไม่มีที่จัดเก็บข้อมูลมากพอสำหรับโปรไฟล์ และ การตั้งค่า จึงต้องใช้ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบออนไลน์ ถ้าอินเตอร์เน็ตของคุณไม่ดี Steam Controller ก็จะทำงานได้ไม่ดีเช่นกัน
ถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ ที่อินเตอร์เน็ตไม่ดี จะมีผลต่อประสบการณ์การเล่นเกมส์ของคุณ การเชื่อมต่อ Wifi ที่ไม่ดี จะทำให้เกิดการผิดพลาดในการบันทึก หรือ อัพโหลดไปยัง Community พยายามเชื่อมต่อผ่านสาย Lan ดีกว่า ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่อง Wifi ได้
ลอง ปิด – เปิด ใหม่ทั้ง Steam , Controller และ PC
เมื่อใดก็ตามที่คุณทำการติดตั้ง หรือ อัพเดท Steam หรือ ทำการอัพเดทเฟิร์มแวร์ของ Steam Controller ด้วยตัวเอง คุณควรที่จะรีสตาร์ท Steam แค่ปิด แล้ว เปิดใหม่ ปิดคอนโทรลเลอร์ด้วยการกดปุ่ม Steam ค้างเอาไว้ซักครู่ และ เปิดใหม่อีกครั้ง หลังจากที่รองรีสตาร์ทแล้ว จำเอาไว้ให้ดี มีปัญหาอะไรก็ให้ลองรีสตาร์ทดู มันเป็นวิธีทำความสะอาดที่ดีที่สุดแล้ว อย่าประมาทพลังของการรีสตาร์ทนะ !
อัพเดทไดรฟ์เวอร์ถ้าสามารถทำได้
Video card drivers…
Chipset Drivers…
ส่วนนี้ยังอยู่ในระหว่างการเขียน!!
ทดสอบกับคอมพิวเตอร์ตัวอื่น
หนึ่งในการทดสอบ Steam Controller ที่ดีที่สุด คุณสามารถทดสอบกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นได้ ลองบ้านเพื่อน แล้วลองเชื่อมต่อดู ทำทุกอย่างที่คุณสามารถพยายามทดสอบกับเครื่องอื่น ๆ เพื่อทดสอบว่ามันสามารถใช้งานได้ปกติหรือเปล่า ซึ่งไม่น่ามีปัญหาอะไรจากตัวฮาร์ดแวร์ นอกจากจะเสียมาจากโรงงาน ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก
ค้นหา และ Google
เมื่อถามหาความช่วยเหลือ คุณมีปัญหากับ Steam Controller แล้วคุณคิดว่าปัญหานั้นมีคำตอบอยู่แล้ว และ ไม่อยากทำให้คนอื่นเสียเวลา ลองค้นหาใน Community หรือ Google ก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเมื่อคุณเจอปัญหาต่าง ๆ
บันทึกวิดีโอ และ ถ่ายรูป
บางครั้ง เมื่อคุณมีปัญหากับ Steam Controller คุณมักจะคิดว่ามันเป็นที่ฮาร์ดแวร์เท่านั้น การบันทึกวีดิโอ หรือ ถ่ายรูปหน้าจอช่วยคุณได้ ถ้าคุณใช้การ์ดจอของ Nvidia ไดรฟ์เวอร์มาพร้อมซอฟต์แวร์ของ GeForce มีระบบจับภาพหน้าจอ ซึ่งบันทึกภาพแบบการเข้ารหัส H.264* และ ถ้าคุณใช้การ์ดจอของ AMD พวกเขาก็มีระบบ H.264 เช่นกัน แต่ซอฟต์แวร์ของพวกเขายังไม่ดีพอ ตรงจุดนี้ ผมขอแนะนำให้ใช้ OBS ( Open Broadcaster ) ในการจับภาพหน้าจอต่าง ๆ ประโยชน์ของ OBS คือ รองรับระบบ QuickSync ของ Intel โดยใช้ IGPU
* H.264 เป็นมาตรฐานหนึ่งของการการบีบอัดวีดีโอ หรือ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ MPEG-4 Part 10 หรือ MPEG-4 AVC ซึ่ง AVC ย่อมาจากคำว่า Advanced Video Coding
ถ้าคุณบันทึกวิดีโอ ผมแนะนำให้คุณอัพโหลดลง Youtube และ คัดลอกลิงค์ของคุณไปแปะไว้ในฟอรั่มของ Steam เพื่อให้คนที่ต้องการช่วยเหลือคุณ ในการแก้ไขปัญหา โดยพวกเขาสามารถคลิกเข้าไปดูวิดีโอผ่านลิงค์ตรงนั้นได้เลย
การบันทึกภาพหน้าจอ
Steam นั้นสามารถบันทึกภาพหน้าจอได้ด้วยตัวเอง ในขณะเล่นเกมส์โดยการกดปุ่ม F12 หรือ ว่าใช้ปุ่มลัดบน Steam Controller โดยการกดปุ่ม Steam+RT พร้อมกัน และอีกวิธีหนึ่ง สำหรับการบันทึกภาพหน้าจอโดยไม่ใช้ซอฟต์แวร์ช่วย เป็นการบันทึกหน้าจอของตัว Windows เอง โดยการกด Win+PrintScreen ภาพจะถูกบันทึกเอาไว้ในโฟลเดอร์ Picture และ ตัวผมเองนั้นชอบวิธีนี้มากกว่า
เดี๋ยวผมมาเขียนเพิ่ม!
การจัดการ EMI
ความถี่ 2.4Ghz เป็นความถี่มาตรฐานที่ใช้ใน Steam Controller และ อุปกรณ์ Wireless ประเภทอื่น ๆ และ บลูทูธก็ด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะมีปัญหาเรื่องสัญญาณรบกวน ถูกรบกวนได้ ทั้งทางสัญญาณบลูทูธ หรือ จากน้ำมือของมนุษย์นั่นเอง ใน Steam Controller นั้น มีตัวขยายสัญญาณอยู่ภายในตัวของมันเอง ซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ อุปกรณ์รับสัญญาณแบบเสาของตัวเร้าเตอร์ ซึ่งทำให้รับสัญญาณได้ดีในห้อง ขดลวดขนาดใหญ่ เช่นใน TV หรือ PC นั้นก็สามารถสร้างสัญญาณรบกวนได้ ถ้าคุณมีอุปกรณ์ใด ๆ ก็ตามที่รบกวนสัญญาณ ให้ใช้สายเคเบิ้ล USB สำหรับอุปกรณ์ของคุณ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผมแก้ปัญหาหลักของ EMI ได้ ผมมี คีย์บอร์ด , เม้าส์ , หูฟัง , บลูทูธสำหรับรีโมท Wii และ จอย PS4 และ Wifi ที่ผมใช้เป็นแบบความเร็วสูง ลูกชายผมยังใช้แท็บเล็ตเล่น Wifi และ Bluetooth อีก แต่ทั้งหมด สามารถใช้งานร่วมกันได้ แบบไม่มีปัญหา เพราะว่าผมใช้คีย์บอร์ด และ เม้าส์แบบบลูทูธผ่านทาง USB Hub สามารถใช้งาน Steam Controller ได้ปกติ เพราะผมมีการจัดการบริหารระยะห่างของสัญญาณได้เป็นอย่างดีนั่นเอง
ดูให้แน่ใจว่าคุณใช้พอร์ต USB2.0 สำหรับ Steam Controller เพราะว่า USB3.0 มันมีปัญหาเกี่ยวกับ EMI และ ยังมีปัญหากับอุปกรณ์อื่น ๆ บางตัวที่มีความถี่ 2.4Ghz อีกด้วย
ถ้าคุณมีความรู้เกี่ยวกับการแพร่กระจายของคลื่นอยู่แล้ว คุณก็ข้ามข้อนี้ไปได้เลย และ CPU นั้นไม่ได้จัดการสัญญาณ EMI ด้วยตัวของมันเอง ถ้าคุณทำการ Overclock CPU มันจะทำให้เราเลือกปิด เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของ EMI ได้ คุณจะปิดมัน หรือ ย้ายคอมพิวเตอร์ของคุณออกจากบริเวณนั้นก็ได้ ชิปของ Intel ก็ทำได้ แต่ไม่ดีเท่า AMD และ มีปัญหาเรื่องการลดทอนสัญญาณนี้ จะเกิดขึ้นเวลาเราเชื่อมต่อตัวรับสัญญาณหลาย ๆ ตัวพร้อมกัน มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทดลอง และ ข้อผิดพลาด แต่ก็ไม่ยาก เมื่อคุณตระหนักถึงสิ่งที่เป็นปัญหา
เสาอากาศตัวรับสัญญาณของ Steam Controller นั้นตัวเล็ก แต่มันก็ยังใหญ่กว่าจอยของ Logitech แต่ก็ทำได้แค่เก็บไว้ในใจ แล้วตั้งค่าของเราต่อไป
เปิด Steam , เกมส์ หรือ ทั้งคู่ในโหมด ADMIN
เกมส์บางเกมส์ต้องใช้สิทธิ์พิเศษในการเข้าถึง ซึ่งส่วนใหญ่ทำไม่ได้ เช่น Mass Effect เป็นตัวอย่างที่ดี และ Overlay นั้นจะไม่ทำงานในโหมด User ( Steam ) ไม่สามารถทำงาน หรือ ปรับเปลี่ยนค่าต่าง ๆ ในโหมด Admin ( Game ) ได้ เพื่อให้การแก้ไขเป็นหน้าที่ของ Steam ในฐานะแอดมิน และ บางครั้งการเล่นเกมส์ในโหมด User นั้นยังปิดกั้น Steam บางสาเหตุ เช่น เหมือนโหมดความเข้ากันได้ใน Windows 98 กรณีนี้ คุณจะต้องตั้งค่า Steam เป็นโหมด Admin และ เกมส์อื่น ๆ ก็ยังต้องมีการตั้งค่าด้วยตนเองเป็นโหมด Admin ด้วยตัวเอง แบบ Steam นี่เป็นการทดสอบ และ หาข้อผิดพลาด ที่คุณจะหาเหตุผลว่าทำไม Overlay ถึงไม่แสดงขึ้นมาในบางครั้ง
ปรับปรุงโพสต์ของคุณเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เมื่อคุณไม่สามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ Steam Controller ได้ จากการอ่านคู่มือนี้แล้ว คงต้องถึงเวลาที่คุณจะโพสต์ถามแล้วล่ะ จำเอาไว้ว่า คนอื่นจะช่วยคุณได้มาก หรือ น้อยขึ้นอยู่กับการอธิบายของคุณในการตั้งโพสต์
อย่าลืมบอกชื่อเกมส์ที่คุณเล่นด้วย ปัญหาต่าง ๆ อธิบายอย่างละเอียด
พยายามโพสต์ให้สั้นที่สุด เพราะว่าไม่มีใครอยากอ่านประโยคยาว ๆ แน่นอน หลาย ๆ คน จะได้อยากช่วยเหลือคุณ แต่ผมก็ไม่ได้แนะนำว่า ให้ตั้งโพสต์ที่สั้นเกินไปจนอ่านไม่เข้าใจอะไรเลย เพราะว่าเราก็ไม่สามารถช่วยคุณได้เช่นกัน ถ้าคุณมีข้อมูลให้เราไม่เพียงพอ การโพสต์ที่ดีควรโพสต์แค่ 2-3 บรรทัดให้กระชับ และ ได้ใจความ และ ไม่ควรใช้ภาษาแปลก ๆ ในการพิมพ์ และ ไม่ควร ขอบคุณด้วยภาษาแปลก ๆ เช่นแทนที่จะ Thank you ก็ใช้ Thnk
ถ้าคุณตัดสินใจที่จะโพสต์ภาพหรือวิดีโอ ทำปุ่มให้คนกดเห็นได้อย่าชัดเจน เพื่อความง่าย และ รวดเร็วในการเข้าถึง ช่วยให้คนอื่น ๆ ช่วยคุณได้ง่ายขึ้นเยอะ
การทำแบบฟอร์ม Steam support
บางครั้งคุณได้ Steam Controller หรือ ตัวรับสัญญาณที่ไม่ดี มีข้อบกพร่อง ซึ่งไม่มีใครสามารถแก้ไขข้อบกพร่องได้ 100% จากสาเหตุข้อบกพร่องจากตัวอุปกรณ์เอง คุณตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าตัวคอนโทรลเลอร์ หรือ ตัวรับสัญญาณของคุณมีปัญหาจริง ๆ คุณสามารถขอทำเรื่องเคลมได้ เพราะว่าทาง Valve นั้นมีการรับประกันสินค้า 1 ปี นับตั้งแต่วันที่คุณซื้อ
ขั้นตอนการกรอก SUPPORT TICKET
- เมื่อคุณเข้าไปที่เว็บไซต์ steampowered.com แล้วมองไปที่มุมขวาบน คุณจะเห็นลิ้งค์ที่เขียนว่า ” SUPPORT ” ให้คุณคลิ๊กที่นั่น
- เลือก “Steam Hardware” จากตัวเลือกที่ขึ้นมา
- เลือก “Steam Controller” จากหน้าถัดไป ที่ขึ้นมา
- ในหน้านี้คุณสามารถเลือกอาการเสียของคุณลงไปได้ ยกตัวอย่างเช่น ตัวรับสัญญาณมีปัญหา ก็ให้เลือกไปตามนั้น
- ในช่องถัดไป ผมขอแนะนำให้คุณเลือกหัวข้อ “Damaged Parts”
- ในหน้าต่อจะเป็นการติดต่อฝ่าย Support เพื่อขอเคลม ให้เลือกมัน
- จากตรงนี้เว็บไซต์จะขอให้คุณกรอกบัญชีของ Steam Support ซึ่งไม่ใช่บัญชีเดียวกับที่คุณใช้เล่นเกมส์ ถ้าคุณไม่มี จำเป็นที่จะต้องสมัครใหม่
- กรอกแบบฟอร์ม ทั้งนี้ตัวเลือกต่าง ๆ จะเปลี่ยนไปตามที่คุณเลือก ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกันในแต่ละคน บางหัวข้ออาจจะให้คุณพิมพ์อธิบายเพิ่มเติม ถ้าคุณต้องการจะเคลมอุปกรณ์จริง ๆ คุณต้องมีเลขซีเรียลนัมเบอร์ของอุปกรณ์ ซึ่งทั้งตัวรับสัญญาณ และ Steam Controller นั้นมีเลขซีเรียลนัมเบอร์อยู่บนตัวของมัน ตัว Steam Controller จะอยู่ที่ด้านหลังฝาปิดแบตเตอรี่ โดยจะขึ้นต้นด้วย FD ส่วนที่ตัวรับสัญญาณจะอยู่ทางด้านขวา และ จะเป็นคนละเลขกับที่เขียนอยู่บนคอนโทรลเลอร์
โดยทั่วไปการเปลี่ยนตัวอุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ หรือ ตัวรับสัญญาณนั้นจะใช้เวลาไม่นานมากนัก ไม่ใช่เร็วเฉพาะการจัดส่ง แต่กระทั่งการตอบรับการเคลมของคุณก็ใช้เวลาไม่นานเช่นกัน
ถ้าคุณมีปัญหาตรงไหนเกี่ยวกับอุปกรณ์ คุณก็สามารถเข้าไปดูวิธีการแก้ไขเบื้องต้นได้ที่หัวข้อ ” SUPPORT ” เช่นกัน โดยเข้าไปเลือกหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย
สรุป
ถ้าคุณเล่นเกมส์อยู่ที่บ้าน แล้วมีปัญหา หรือ สงสัยอะไร ให้คู่มือนี้ ช่วยคุณแก้ไขปัญหาเบื้องต้น แต่ถ้าคุณยังไม่สามมารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง อย่าลังเลที่จะโพสต์ขอความช่วยเหลือใน Steam Community และ ให้โพสต์ตามที่ได้บอกไป แล้วรอความช่วยเหลือ ลองแก้ไขมันด้วยตัวเองก่อน ทุกปัญหามีทางออก และ ทางแก้
สุดท้ายนี้ อยากให้จำไว้ว่า ไม่มีใครมาที่บ้านคุณได้ และ แก้ปัญหาให้คุณได้ คุณต้องพยายามด้วยตัวเอง ดั่งสุภาษิตที่ว่า ” ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ” นะครับ