คอนโซลแห่งอนาคต Xbox One S รองรับการสตรีมแบบ 4K และ เทคโนโลยี HDR
Xbox One S หรือ Xbox One Slim หรือ อีกหลาย ๆ ชื่อที่ใช้เรียก แต่ในที่สุดเมื่อถึงงาน E3 2016 เราก็ได้รับรู้รายละเอียดของมัน จากการเปิดเผยของ Microsoft มากขึ้น
Microsoft Xbox One S วางจำหน่ายในราคา 399 $ สำหรับรุ่น 2TB เมื่อมองผ่าน ๆ ในทีแรก ก็สามารถบอกได้ว่า นี่เป็นคอนโซลที่มีความแตกต่างจากเครื่องเล่นเกมส์อื่น ๆ โดยที่ไม่ต้องมีลายเซ็นต์ของ Xbox One กำกับไว้เลยก็ว่าได้ ด้วยรูปลักษณ์ที่มีความบาง มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กพอ ๆ กับเครื่องเล่น Blu-ray ภายนอก สีขาว มีรูพรุน เกือบครึ่งหนึ่งของตัวเครื่อง เพื่อการระบายความร้อน และ มีการจัดเรียงปุ่มต่าง ๆ บนตัวเครื่องใหม่ เพื่อให้มีความสามารถรองรับการใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้น
จากที่รู้มาก่อนหน้านี้ Xbox One S จะมีขนาดบางลง จาก Xbox One รุ่นเดิม ซึ่งจากที่ได้ออกมาโชว์ตัว ก็จะเห็นได้ว่าตัวเครื่องมีขนาดเล็กกว่าเครื่องรุ่นเดิมประมาณ 40 % การออกแบบภายนอก เช่น ปุ่ม Eject เปลี่ยนเป็นแบบ Touch – Capacitive และ ปุ่ม Power ได้ถูกแทนที่ด้วยปุ่มแบบ Physical แทน เราเคยหวังว่า Xbox One รุ่นใหม่ จะสามารถสตรีม 4K High Dynamic Range ( HDR ) ได้ ซึ่งตัวอุปกรณ์ก็สามารถทำได้จริง และ ก็หวังว่ามันจะมีพอร์ต HDMI 2.0 ที่ทันสมัย แทนพอร์ต HDMI 1.4 รุ่นเก่า
ดังนั้น จึงหมายความว่า ผู้ใช้สามารถสตรีมหนังจาก Netflix และ Amazon ในรูปแบบ 4K HDR ในขณะที่ผู้ใช้เครื่อง Blu-ray ต้องทำการอัพเกรดเครื่องเสียก่อนที่จะเล่น วีดีโอ หรือ ชมภาพยนตร์ เป็นเทคโนโลยีในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น เราจะพบว่า Xbox One S สามารถอัพสเกลเกมจาก 1080p ไปเป็น 4K ได้อีกด้วย สิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน แต่จะได้เห็นใน Xbox S ก็คือ ความสามารถในการเล่นเกมแบบ HDR ( High Dynamic Range ) และ เฟรมเรตที่เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย แต่สิ่งที่ไม่มีในเครื่องคอนโซลแบบอื่น ๆ ก็คือราคา ซึ่ง Xbox S อาจมีราคาเทียบเท่ากับ Xbox One รุ่นเดิม
อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติทั้งหมดของอุปกรณ์เหล่านี้ ก็เป็นสิ่งที่ต้องเลือก เพราะ Xbox One S ไม่มีพอร์ต Kinect เป็นมาตรฐานมาให้ ซึ่งหากจะใช้ Kinect ผู้ใช้เครื่อง Xbox S ต้องซื้ออแดปเตอร์ USB เพิ่ม แม้ว่าเครื่อง Xbox S จะขาดความสามารถในการเชื่อมต่อกับ Kinect แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อเกมเมอร์น้อยมาก ซึ่งการนำเอาพอร์ต Kinect ออกไปนั้น เป็นแรงกระตุ้นอย่างดีสำหรับเกมเมอร์ ที่ต้องถูกบังคับให้ซื้อเครื่องเล่นเกมส์ในราคาแพง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่จากการอัพเดทล่าสุด ของแพลตฟอร์ม Xbox One ที่กำลังจะมา ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ก็ทำให้แน่ใจว่า แม้ Xbox S เลือกที่จะตัด ตัวเลือกในส่วนของ Hardware ออกไป แต่มันจะถูกทดแทนด้วยการอัพเดท Software ที่มากขึ้น
การออกแบบ
Xbox One S ได้ทำในสิ่งที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ นั่นก็คือ การรวมหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ และ Hard Drive ที่ขยายความจุขึ้นไปเป็น 2 TB เข้าไปในตัวเครื่องที่มีขนาด 1 ใน 4 ของรุ่นเดิม รูระบายอากาศจำนวนมาก ที่มองเห็นจากด้านนอก สามารถทำได้มากกว่าการเพิ่มอากาศให้ไหลเวียนภายในตัวเครื่อง แต่มันช่วยให้ Microsoft ใส่พัดลมขนาดเล็ก ที่อยู่ในตำแหน่งติดกันกับ Hard Drive บริเวณด้านหลังของช่องใส่ดิสก์ แทนที่จะเป็นมุมขวาด้านหลัง ซึ่งการย้าย Hard Drive ไปไว้ในตำแหน่งดังกล่าว จะช่วยให้แหล่งจ่ายไฟ สามารถเก็บเอาไว้ด้านในคอนโซล แทนที่จะติดตั้งอยู่ข้างเดียวกันเหมือนเดิม ทำให้การวางตำแหน่งต่าง ๆ ภายในตัวเครื่อง จัดวางได้เป็นระเบียบ ช่วยในการระบายความร้อนได้ดีขึ้นอีกด้วย ปุ่ม Physical 2 ปุ่ม อยู่ในตำแหน่งของ Capacitive Touch สำหรับ ปิด- เปิด ตัวเครื่อง และ ปุ่ม Eject ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของคอนโซล มี IR blaster อยู่ทางด้านหน้า ช่วยให้คุณสามารถเปิดอุปกรณ์อย่างเช่น TV , ตัวรับ audio / video และ กล่องเคเบิล / กล่องรับสัญญาณดาวเทียม สิ่งเดียวที่ขาดหายไปก็คือ พอร์ต Kinect มาตรฐาน และ Microsoft ก็ประกาศว่า Xbox S มีเพียงสีเดียว คือ สีขาว
ประสิทธิภาพ
แม้ว่า Phil Spencer หัวหน้าฝ่าย Xbox จะประกาศว่า Xbox One S มีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เมื่อได้พิจารณาอย่างละเอียดแล้ว ก็พบว่า Xbox S มีการปรับปรุงเพิ่มเติมอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งสิ่งที่ว่านี้ หมายความถึงการสตรีมมิ่ง 4K และ การเล่นเกม HDR ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่พอ พร้อมที่จะคว่ำคู่แข่งทุกราย ที่อยู่ในตลาดภายในระยะเวลา 6 เดือน นับจากนี้
ความเข้ากันได้กับเทคโนโลยี HDR ทำให้ Xbox S มี CPU และ GPU ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า Xbox One รุ่นมาตรฐาน ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราเฟรมเรตเพิ่มสูงขึ้นในบางเกม แม้ว่าประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น อาจจะยังมองเห็นไม่ชัดเท่าไหร่นักแต่เกมอย่าง Gears of War 4 ก็ทำให้เห็นได้ว่า ได้ประโยชน์จากการอัพเกรด Hardware ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก แม้ว่าการปรับปรุงหน่วยประมวลผล และ กราฟิกอาจจะทำให้เกมบางเกม สามารถเล่นได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และ มันอาจส่งผลสะเทือนต่อผู้ใช้ Xbox One บางคน เพราะการเล่นเกมบน Xbox S ด้วย HDR ทำงานที่ 60 เฟรมต่อวินาที ทำให้การแสดงผลบน Xbox One ดูพร่ามัว และ แสดงสีไม่สดใสเท่าที่ควร
นอกจากนี้ก็ยังเห็นได้ชัดว่า Xbox S จะไม่มีการทับซ้อน หรือ สร้างความสับสนกับ Project Scorpio ที่ Microsoft ได้ประกาศในงาน E3 ว่าจะได้ฤกษ์เปิดตัวในช่วงปลายปี 2017 ซึ่งมีแนวโน้มว่าคอนโซลตัวใหม่ จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยการเปิดตัวประสิทธิภาพของกราฟิกกว่า 6 TFlops ที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงกว่า Xbox One ในปัจจุบัน ถึงกว่าห้าเท่า
จอย Xbox One S ยังมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ด้วยการเพิ่ม Texture Grip และ ระบบ Bluetooth ที่ช่วยเพิ่มระยะทางในการเล่นเกมให้มากขึ้น ตัวจอย Xbox One S ให้ความรู้สึกเช่นเดียวกับ จอย Xbox One ที่ต้องบอกว่ารู้สึกเหมือนกัน ก็เพราะในงานสาธิตอุปกรณ์ Microsoft ไม่ได้ให้ผู้ชมได้สัมผัสกับอุปกรณ์จริง ๆ การเปลี่ยนแปลงที่เห้นได้ชัดที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ พื้นผิวที่ให้ความรู้สึกแบบเดียวกับจอย Xbox One Elite Wireless Controller ซึ่งการอัพเกรดเป็น Xbox S ที่มีการเปลี่ยนแหล่งพลังงานของจอย จากแบตเตอรี่ธรรมดา ไปเป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ที่สามารถชาร์จซ้ำได้
สรุปในขั้นต้น
ถึงตอนนี้ก็ยากที่จะบอกว่า มีอะไรที่ไม่สมบูรณ์สำหรับ Xbox One S เพราะเมื่อดูจากภายนอก มันมีขนาดที่กะทัดรัด และ ก็ยากที่จะเข้าใจว่าทำไม Microsoft จึงเลือกที่จะขายในราคาเดียวกับ เครื่องในรุ่นปัจจุบัน ดังนั้นข้อเสียเดียวที่พบตอนนี้ก็คือ คุณอาจจะเพิ่งตัดสินใจซื้อ Xbox One ไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่มีราคาแพง ทำให้การตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องไปเป็น Xbox S ที่มีการอัพเกรดเครื่องเป็น 4K HDR Streaming และ ความจุขนาด 2 TB กลายเป็นการตัดสินใจที่ยากขึ้น ซึ่ง Xbox S จะเริ่มจัดจำหน่าย ในวันที่ยังไม่ได้มีการกำหนดแน่ชัด ในเดือนสิงหาคม 2016 นี้